Sorry Guy, I’m not a GAY(Girl)
ตอนก่อนหน้านี้ (ไม่ติดรหัส)
https://keyprand.wordpress.com/about/long-fic-content/
6th CHAPTER : Confession
สำหรับคีย์แล้ว ถ้าจะอาภัพไปมากกว่านี้… เขาก็คงจะไม่สามารถโทษอะไรได้
นอกจากความซวยของตัวเอง!!!!
…
กระจกวิเศษเอ๋ย บอกข้าเถิด ใครเกิดมาซวยที่สุดในปฐพี
“คุณคีย์กับคุณผู้ชายรักกันจริงๆนะคะ”
คีย์หันกลับไปมองสาวใช้ของตระกูลชเวพร้อมตาที่เบิกกว้าง แต่สาวเจ้าก็เผ่นหนีออกไปจากสายตาอย่างรวดเร็วจนเขาแทบไม่ทันตั้งตัว ร่างเล็กเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างรุนแรง ระหว่างที่นั่งแหมะอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าปั้นยาก ดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายร้อนรุ่มหันกลับมามองภาพตรงหน้าพร้อมกับความพยายามที่จะดึงตัวเองออกจากการเกาะกุมเป็นครั้งที่ร้อยสามสิบ… หากอำนาจศีลธรรมอันดีที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจอันแสนอ่อนโยนของคีย์ก็แสดงอำนาจอีกครั้ง
คีย์ตัดสินใจยอมแพ้ และปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเหมือนเดิม…
เป็นคนดีเกินไปก็ลำบากแบบนี้ล่ะ…
คีย์เพิ่งเข้าใจประโยคที่ว่า คนดีกับคนโง่ บางทีก็ใกล้เคียงกันจนแยกไม่ออก ก็คราวนี้
เจ้าของร่างบอบบางในชุดแม็กซี่เดรสลูกไม้สีครีมยาวกรอมข้อเท้าแบบผู้หญิงจ๋าขยับตัวอย่างอึดอัด แม้ว่าความยาวของชุดจะปกคลุมเรียวขาไม่ให้โป๊เปลือยจนเสี่ยงต่อการถูกจับได้ก็ตามที หากส่วนบนของมันกลับทำให้คีย์รู้สึกถึงความวาบหวิว และโปร่งบางจนอยากกลับไปใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบที่เคยใส่มาตลอดชีวิตเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่คีย์มั่นใจมาตลอดว่า กระโปรงคือมหันตภัยกับร่างกายของตัวเอง…เพราะลมเย็น ๆ ที่พัดอยู่ใต้ขายาวนั้นชวนให้รู้สึกวูบวาบเหลือเกิน หากชุดที่กำลังใส่อยู่ในขณะนี้กลับเป็นมหันตภัยของจริงที่เขาต้องหยิบมันขึ้นมาสวม…จนอดคิดไม่ได้ว่า หากย้อนเวลากลับไปได้.. เขาคงจะไม่มองผู้หญิงทั้งหลายที่ชอบใส่ชุดแบบนี้ด้วยสายตาโลมเลียอีกอย่างแน่นอน เพราะเพิ่งรู้ถึงความร้ายกาจของ ‘เสื้อผ้าผู้หญิง’ แบบที่เขาเคยชื่นชมก็ตอนนี้
ไหล่บอบบางเปลือยเปล่า อวดผิวสีน้ำนมเนียนละเอียดจนแทบกลืนไปกับสีเสื้อตั้งแต่คอระหงเรื่อยลงมาจนถึงเนินอกเรียบและแผ่นหลังขาวเนียน สายเสื้อสองเส้นพาดบนไหล่เพื่อยึดเนื้อผ้าให้อยู่บนร่างแค่ข้างละเส้น คีย์ตัดสินใจปล่อยผมยาวประบ่าที่ไว้ยาวมากว่าสามปีให้สยายยาวและคลุมผิวกายของตนไว้ด้วยความรู้สึกกระดากอาย เขาแทบไม่รู้มาก่อนว่าชุดแต่ละชุดที่แม่จัดไว้ให้เขานั้นสร้างความลำบากให้เขามากขนาดไหน อันที่จริงคีย์น่าจะสังหรณ์ใจตั้งแต่ที่หญิงวัยกลางคนที่ชอบแต่งตัวเหลือเกินอย่างแม่บอกว่าจัดกระเป๋าสำหรับการฮันนีมูนของเขาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ลากมันไปด้วยเท่านั้นก็เพียงพอ….
อย่างน้อยแม่ก็ควรรู้ว่าลูกคนเล็กของแม่นั้นเป็นผู้ชาย…. และแม่ก็ควรจะระลึกเสมอว่าการที่เขาเข้ามาอยู่ในฐานะเจ้าสาวของตระกูลเชวนั้นเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย…นอกจากนั้นใคร ๆ ก็ควรจะเลิกทำเป็นลืมว่าเขาเป็นผู้ชายได้แล้ว!!!!
คีย์คนนี้เป็นผู้ชายนะโว้ย!!!!!!
“โดยเฉพาะนาย …เชว มินโฮ”
“อือ… ”
เสียงครางแผ่วหวิว และสีหน้าซีดเผือดจนเหมือนกระดาษาทำให้คีย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขณะที่มือข้างหนึ่งเปียกชื้นเพราะเหงื่อที่ซึมออกมาจนแทบตวงได้เป็นขวด มืออีกข้างของคีย์กลับขยับไปมาด้วยความกระวนกระวายเพราะไม่รู้จะวางไว้ทีไหน เกือบเที่ยงแล้ว… แต่คีย์รู้สึกเหมือนร่างกายยังอ่อนเพลียจากเหตุการณ์วุ่นวายและสภาพจิตใจที่บอบช้ำจากเรื่องเมื่อคืน ดวงตาที่ดำคล้ำทั้งสองข้างพร้อมจะปิดได้ตลอดเวลา…แต่คีย์กลับไม่สามารถทำมันได้ แม้ว่าตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยและเพลียจนแทบทรงตัวไม่ไหว แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะล้มตัวลงนอน…
สายตาเฉี่ยวคมก้มมอง ‘อะไรบางอย่าง’ ตามด้วยการแยกเขี้ยวใส่อย่างหมั่นไส้ปนระอา
นอกจากจะเป็นต้นเหตุให้เขาต้องทำตัววิปริตผิดเพศ แต่งงานกับเพศเดียวกันพร้อมมาฮันนีมูนกันสองต่อสอง(?)บนเกาะส่วนตัว เป็นสาเหตุให้เขาต้องติดบ้านร้างกลางเกาะท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองเกือบครึ่งคืนแบบละครน้ำเน่าหลังข่าวที่แม่บ้านชอบดู รวมไปถึงการทำร้ายจิตใจและร่าง… เอ่อ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ภายในไม่กี่วัน ชีวิตของเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งต้องเปลี่ยนพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือเพียงเพราะคนเพียงคนเดียว… แถมคน ๆ นี้ก็ยังทำให้เขาอยากจะจิกทึ้งหัวตัวเองอย่างแรงด้วยตอนนี้
ชเว มินโฮ!
ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ
!!!!
“ปล่อย มือ ฉัน เดี๋ยว นี้ นะ โว้ย!!! ”
เสียงหวานลอดไรฟันออกมาพร้อมกับดวงตาที่จิกถลึงเต็มที่ ทว่า…คีย์เองก็รู้ว่าไม่สามารถเปล่งเสียงให้เล็ดลอดไปถึงหูสาวใช้ผู้ซื่อสัตย์แห่งตระกูลชเวที่อาจจะนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องนอนส่วนตัวอันหรูหรานี้ได้แม้แต่ศูนย์เดซิเบล…
ขืนสาวใช้(จอมสอดรู้สอดเห็น)ระแคะระคายอะไรไป คนที่ซวยไม่ใช่ใครเลย…
“ไอ้บ้า ถ้าตื่นเมื่อไหร่ฉันจะฆ่าแก!!!”
ที่สำคัญคือ คีย์รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคนเราพูดกับศพไม่ได้
คีย์ถอนหายใจแรง ก่อนแบะปากด้วยหน้าตาที่ยุ่งเหยิง ยิ่งหันไปมองหน้าซีดเซียวและชื้นแฉะด้วยเหงื่อที่ผุดออกมาเป็นแม่น้ำของอีกฝ่ายก็ยิ่งรู้สึกอ่อนใจ คีย์ว่าตัวเองแย่แล้ว… เพราะทั้งสภาพจิตใจและร่างกายที่บอบช้ำอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น มันควรจะเป็นเขามากกว่าที่ต้องเป็นฝ่ายป่วยหนัก เป็นไข้หวัด ง่อยเปลี้ย ไม่มีแรง ไข้ขึ้นสูง นอนเพ้อ กระสับกระส่าย กินอะไรไม่ได้ หน้าซีด หนาวสั่น นอนให้คนอื่นเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ เหมือนคนป่วยหนักใกล้ตายแบบนี้
เท่านี้ก็คงรู้แล้วใช่ไหมว่า’อะไรบางอย่าง’ที่ทำให้เขาไปไหนไม่ได้ อาการเป็นอย่างไรบ้าง
ย้อนกลับไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว อากาศยามเช้าที่แสนสดใสหลังจากพายุได้ผ่านพ้นไปทำให้คีย์ตื่นขึ้นมาบิดขี้เกียจด้วยความรู้สึกสดชื่น แม้จะยังอ่อนเพลียอยู่บ้างก็ตาม เสียงคลื่นที่ซัดสาดผืนทรายขาวละเอียดที่อยู่ข้างนอกฟังเพลิน ๆ คล้ายเสียงดนตรี เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ทำให้ร่างเล็กแทบไม่อยากลุกขึ้นมาจากผ้าห่ม
พอคีย์ลืมตาตื่นขึ้นมาแบบเต็มตา เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นห้องที่มีผ้าห่มอย่างหนาปูให้อย่างดี แถมบนตัวก็มีผ้าหนา ๆ ห่มจนแทบไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็น หากไม่ทันที่จะกวาดสายตาไปได้ทั่วห้อง เขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อพบกับ’อะไรบางอย่าง’ที่นอนขดอยู่มุมห้อง… พร้อมกับเสียงฟันที่กระทบกันอย่างน่ากลัว
“เฮ้ย!!!!”
คีย์อุทานเสียงหลงจนลืมหน้าที่ความเป็นกุลสตรีเกาหลีอย่างที่แม่เคยสอนไว้ ก่อนกระโดดพรวดเดียวถึงร่างสูงใหญ่ยักษ์ปักหลั่นที่นอนกอดผ้าผืนบาง ๆ ไว้ด้วยเนื้อตัวที่สั่นระริกราวกับกำลังโหยหาไออุ่น คีย์ยื่นมือไปหวังจะวัดไข้ แต่ไอร้อนผ่าวที่สัมผัสได้แม้ว่ามือจะยังไม่ถึงก็ทำให้รีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว
“ตายล่ะหว่า…ตาย …ตาย ”
เปล่า… หมอนี่ยังไม่ตาย แต่คนที่ท่าทางจะตายก็คือคีย์…
เกิดหมอนี่ปุบปับตายขึ้นมาคีย์ไม่กลายเป็นแม่ม่ายสามีตายตั้งแต่แต่งงานได้ไม่ถึงอาทิตย์เรอะ!!
ม่ายยยยยยยยยยยยย (มันใช่เรื่องนั้นไหมล่ะ -_-‘)
หลังจากประเมินสถานการณ์และลองวัดขนาดตัวระหว่างตัวเองกับคนป่วยแล้ว คีย์ก็พบว่าไม่ง่ายเลยที่จะพาคนป่วยหนักจากบ้านหลังนี้ไปที่คฤหาสน์ตากอากาศหลังใหญ่หน้าหาดได้โดยสวัสดิภาพ …เว้นแต่ชำแหละร่างของเชว มินโฮออกเป็นชิ้น ๆ แล้วขนไปทีละส่วนนั่นแหละ สิ่งที่เขาทำได้ก็คือเช็ดเนื้อเช็ดตัวสามีกำมะลอให้ลดไข้ แต่พอเช็ดไปเช็ดมาก็พบว่าเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายใส่อยู่ชื้นแฉะไปด้วยเหงื่อทั้งตัว … ด้วยความที่รู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นผู้ชายด้วยกัน แถมสภาพของหมอนี่ก็ดูแล้วไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงมาทำอะไรเขาได้ คีย์จึงวางใจจนรีบหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้อีกฝ่ายอย่างคนมีน้ำใจ… แต่ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็มักจะเข้ามาแทรกเสมอ ….
เทพเจ้าแห่งความซวยประจำตัวของเขาคงจะว่างงาน จึงช่างสรรหาเรื่องน่าปวดหัวมาให้เขาไม่เว้นแต่ละวันราวกับไม่รู้จักจบสิ้น…
เพียงเขาปลดกางเกงของเชว มินโฮออกจนเหลือเพียงชิ้นสุดท้ายเพื่อที่จะช่วยเปลี่ยนใหม่ให้ด้วยความหวังดี….เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ก็เกิดขึ้น
สาวใช้สามคนเปิดประตูสภาพไม่ค่อยดีนักออกกว้าง ไม่ทันที่จะได้ก้าวเข้ามาหา เสียงกรีดร้องแบบประสานกันอย่างน่ากลัวก็ดังลั่นจนคีย์ตกใจ กว่าคีย์จะ ‘เข้าใจ’ ว่าหญิงสาวทั้งหมด ‘เข้าใจ’ อะไร สาวใช้ทั้งหลายก็แทบจะวิ่งหนีกลับบ้านไปด้วยความเขินอาย เพราะรู้สึกผิดที่ได้เข้ามาขัดขวางสามีภรรยาที่กำลังสวีทหวานกัน (ด้วยภาพเหตุการณ์ที่ดูล่อแหลมและส่อให้คิดถึง ‘เรื่องนั้น’ โดยไม่มีอะไรโต้แย้งได้)
ร่างเพรียวบางที่ทั้งอ่อนแรง และมึนงงกับสภาพของคนตัวสูงอยู่แล้ว ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นสามเท่ากว่าจะอธิบายให้สามนางเข้าใจและเข้ามาช่วยพาเจ้านายที่อาการร่อแร่ของตัวเองกลับบ้านไปอย่างสวัสดิภาพ
คิดถึงตรงนี้แล้วคีย์ก็รู้สึกถึงหน้าที่ร้อนผ่าวจนแทบจะแตกออกมาให้ได้ เพราะแอบได้ยินเสียงซุบซิบของสาวใช้ทั้งสามที่บอกเล่าถึงสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่คีย์พบเจอตั้งแต่เช้ากันด้วยความสนุกสนาน แถมแต่งเติมเสริมแต่งจนติดเรทแทบฟังไม่ได้ อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรับฟัง ทั้ง ๆ ที่เจ้านายตัวเองก็กำลังไข้ขึ้นสูงอย่างหนัก คิดไปแล้วก็เจ็บใจ … ทำอย่างนี้มันน่าหักเงินเดือนซะให้เข็ด
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากพาชายหนุ่มร่างยักษ์มาถึงห้องพักได้ ก็มีหมอและพยาบาลที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ด่วนมาลงที่เกาะตรงเข้ามาตรวจเช็คอาการให้อย่างดี จนคีย์อดสงสัยไม่ได้ว่า หากพร้อมขนาดนี้ ทำไมจึงไม่จับพ่อเจ้าของเกาะกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลซะให้รู้แล้วรู้รอด และแทนที่จะทิ้งนางพยาบาลไว้สักคนให้ดูแลคนป่วย ก็ต้องเดือดร้อนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ต้องมานั่งเฝ้าดูแล‘คุณสามี’ด้วยท่าทางเหมือนกำลังดูแลคนป่วยโรคร้ายระยะสุดท้าย ตั้งแต่เช็ดตัวกระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้า…(อีกแล้ว)
คีย์ถูกพ่วงติดกับเชว มินโฮโดยที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะถูกมือหนาจับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย… เขาร้องขอให้ทุกคนช่วยแกะมือตุ๊กแกนี่ให้ แต่ไม่มีใครยอมเข้ามาช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
“อื้อ…”
สีหน้ากระสับกระส่าย และเหงื่อเม็ดโตที่ผุดออกมาอย่างน่ากลัวทำให้คีย์เบ้ปาก มือเรียวที่ถูกเกาะกุมแน่นพยายามดึงมือตัวเองออกอีกครั้ง… ก่อนจะพบว่ามันก็เป็นอีกครั้งที่ไม่สำเร็จ มือเรียวอีกข้างจึงพุ่งตรงไปที่อ่างแก้วเพื่อชุบผ้าขนหนูกับน้ำเย็น บิดหมาดอย่างทุลักทุเลและเอามาวางแปะบนหน้าผากที่กำลังโชกเหงื่อด้วยท่าทางราวกับกำลังประกาศความไม่เต็มอกเต็มใจของตัวเอง
“รีบ ๆ หายซะทีเถอะ….ก่อนที่ฉันจะไม่ทน”
อย่าให้โกรธขึ้นมานะ เชว มินโฮ
คีย์คิดอย่างงุ่นง่าน ขณะใช้มือข้างเดียวพยายามล้วงเข้าไปเช็ดมัดกล้ามเนื้อใต้เนื้อผ้าด้วยความทุลักทุเล หวังว่าสิ่งที่ทำอยู่จะช่วยลดไข้ให้อีกฝ่ายได้ และน้ำเกลือที่หยดมาตามสาย รวมถึงยาที่แพทย์ให้ไว้จะทำให้ชายหนุ่มหายป่วยในเร็ววัน
คิดไปแล้วก็อดใจหายไม่ได้… คีย์ยอมรับอย่างปลง ๆ ว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ไม่สิ …ตั้งแต่เขาปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อมาแต่งงานแทนพี่สาว คีย์ก็มีแค่มินโฮคนเดียวที่พอจะพูดได้ว่าไม่ใช่คนแปลกหน้า ถึงจะไม่ชอบขี้หน้านัก แต่ชายหนุ่มก็เป็นคนเดียวที่เขาพอจะไว้วางใจในระดับหนึ่ง… อย่างน้อยคีย์ก็อยู่ที่นี่ในฐานะภรรยาของมินโฮ ฐานะนี้ทำให้คีย์รู้สึกราวกับถูกปกป้องอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีใครกล้าจะก้าวเข้ามาทำร้าย…
แต่พอมินโฮนอนป่วยเป็นไร้หนทางช่วยตัวเองได้อย่างนี้ คีย์ก็อดรู้สึกตงิดใจเล็ก ๆ ไม่ได้…ทั้งบ้านและเกาะส่วนตัวแห่งนี้ดูใหญ่เกินกว่าที่เขาจะอยู่ได้จริง ๆ
“รีบ ๆ หายซักทีเถอะ…ฉันเหนื่อยแล้ว ” สารภาพด้วยเสียงแผ่วเบา มือข้างที่เกาะกุมชื้นไปด้วยเหงื่อ…ที่น่าจะมาจากมือเขาด้วยซ้ำไป
คีย์รู้สึกเหนื่อย… หลายวันมานี้ เขาแบกรับหลายสิ่งหลายอย่างเอาไว้ในหัวจนรู้สึกว่ามันพร้อมจะระเบิดเอาได้ในเวลาไม่นาน
เมื่อไหร่นะ… ชีวิตของคีย์จึงจะหยุดวุ่นวายเสียที
ดวงตาสวยปิดลงอย่างอ่อนแรง… ลมหายใจแผ่วหวิวผ่อนเข้าออกอย่างเชื่องช้า คีย์ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจที่บ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยของตัวเอง
คงจะดีไม่น้อย…หากมินโฮรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเขาได้
คงดี…ถ้าเขาสามารถหลับตานอนได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าความลับจะเปิดเผยระหว่างที่กำลังหลับสนิท
“เราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม”
คีย์ได้ยินคำถามนั้นดังก้องอยู่ในหัว…
จะเชื่อได้หรือเปล่า…
“จะเชื่อนายได้ไหม…เชว มินโฮ”
เชื่อใจว่านายจะเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันได้ แม้ว่านายจะรับรู้ความจริงทั้งหมดแล้วก็ตามที
เจ้าของร่างเพรียวตั้งคำถาม… ก่อนที่การสำนึกรู้ทั้งหมดจะหายลับไปพร้อมกับไออุ่นที่เคลื่อนเข้ามาโอบกอดร่างเล็กไว้หลวม ๆ จนจมลึกอยู่ในห้วงนิทราในที่สุด
Sorry Guy, I’m not a GAY(Girl)
“อือ…”
คีย์หลุดจากห้วงนิทราอันนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่ออย่างช้า ๆ เปลือกตาสวยพยายามเปิดขึ้น หากแสงจ้ากลับทำให้เขาต้องกระพริบตาถี่ แพขนตาหนากระพือขึ้นลง ก่อนที่สติสัมปชัญยะจะกลับคืนมา ร่างเล็กบางพบว่าตัวเองนอนอยู่บนกลางเตียงหนานุ่ม พร้อมผ้าห่มผืนโตที่ควรจะคลุมร่างของใครอีกคนเอาไว้….
“เฮ้ย!!!”
เขาสะดุ้งลุกพรวดขึ้นมาทันที ดวงตาเรียวสวยกวาดมองไปรอบ ๆ เตียงกว้างอย่างหวาดระแวง พร้อมสองแขนที่ปะป่ายอย่างรอบคอบ และเขาก็พบว่าเตียงฝั่งขวายังมีรอยบุ๋มลึก รวมถึงรอยอุ่นจาง ๆ หลงเหลืออยู่บ้าง ราวกับอีกฝ่ายเพิ่งลุกออกไปไม่ถึงสิบนาทีนี้
“กลัวผมลักหลับเหรอคุณ… ” เสียงทุ้มเบาปนหัวเราะเอ่ยขึ้นแทรกความมืดและเสียงหัวใจที่เต้นแรงของคีย์ จนใบหน้าได้รูปหันขวับไปยังต้นเสียงพร้อมเม้มปากแน่นสนิท คิ้วโก่งงามขมวดมุ่น พร้อมกับประกายดุในดวงตา
“ฉะ…ฉันมานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!!!”
ร่างสูงใหญ่คมเข้มในชุดนอนยืนอยู่ไม่ห่างจากเตียงมากนัก ใบหน้าคร้ามแดดปรากฎรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนที่ขายาวเรียวจะก้าวอย่างสม่ำเสมอไม่รีบร้อนตรงมาที่เขา พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้เขารู้สึกประหลาด
“ถามตัวคุณเองดีกว่า…ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ไม่ใช่ถามผม”
“ก็ฉัน!….” คีย์พยายามจะส่งเสียงดังสยบ ‘สามี’ ของตนเองเช่นทุกครั้ง หากอาการปวดหนึบที่พุ่งจี๊ดขึ้นมาในหัวทันทีทันใดนั้นทำให้เขาปิดปากทันใด และกุมขมับของตนไว้แน่น “ไม่น่าเลย…”
คงเพราะนอนไม่พอมาหลายวัน แถมยังเจอทั้งอากาศหนาว เจอฝน แถมด้วยสภาพภูมิอากาศที่ไม่คงที่นัก แถมยังลุกนั่งกระทันหัน อาการปวดหัวหนัก ๆ จึงเข้ามารุมเร้าคีย์อีกครั้ง แม้เขาจะรู้ดีว่าอาการประจำตัวแบบนี้แค่นั่งนิ่ง ๆ สักพักก็หายไป แต่การเกิดตอนที่กำลังต่อกรกับอีกฝ่ายแบบตอนนี้ มันช่าง’เสียที’อย่างสิ้นเชิง
“ไม่สบายเหรอคุณ…”
“ไม่ต้องมาถาม เพราะนายนั่นแหละ” คีย์ตวาด ทั้ง ๆ ที่ก้มหน้าพลางนวดขมับตัวเองอย่างขมีขมัน แผ่นอกบางพยายามสะท้อนขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ
“โอ๊ย ปวดหัว… หยุดถามซักทีได้ไหม ฉันไม่ไหวแล้ว”
“แย่ล่ะสิ ผมมีเรื่องจะถามคุณอยู่พอดี”
“อะไรของนาย… เอาไว้คราวหลังได้ไหม ฉันเหนื่อย”
“ไม่ได้” เสียงทุ้มย้ำหนัก ดูจริงจังไม่ต่างจากตอนที่คีย์ถามเรื่องคู่หมั้นคนนั้น จนร่างเพรียวที่นั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงขยับถอยหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อะ… อะไร” เสียงเขาสั่น ความหวาดระแวงเกาะกินหัวใจอีกครั้ง
‘หมอนี่เกิดเพี้ยนอะไรอีก… ’
พิสูจน์กันมาหลายครั้งแล้วว่าเรี่ยวแรงของเขาน้อยกว่าอีกฝ่ายมากนัก… คีย์รู้ว่าหากถูกจู่โจมอีก บางทีรู้ว่าถ้าเขาไม่ขาดใจตายไปก่อนเพราะพละกำลังของมินโฮ เขาก็คงกัดลิ้นตัวเองตายเองแน่ ๆ
อย่าเข้ามานะโว้ย!!
“ผมต้องการรู้คำตอบตอนนี้… ว่าเรื่องทั้งหมดมันคืออะไร”
“เรื่องทั้งหมด? ตอนที่ฉันพานายกลับบ้านเหรอ? ” คีย์ถามซื่อ สมองของเขาประมวลผลช้าจนรู้สึกหงุดหงิด เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่า ‘เรื่องทั้งหมด’ ที่คนเพิ่งหายป่วย แถมยังเดินปร๋อทำหน้าเคร่งขรึมตรงเข้ามาหมายถึงอะไร
กระทั่ง…น้ำเสียงเย็น ๆ ของอีกฝ่ายดังขึ้น พร้อมกับจดหมายฉบับเล็กที่ปลิวขึ้นมาอยู่บนตัก
“ผมอยากรู้ว่าคุณเป็นใครกันแน่… “
แค่กวาดตามองปราดเดียว….คีย์ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาเรียวสวยมองเลยไปยังเบื้องหลังที่ชายหนุ่มเพิ่งเดินจากมาด้วยหัวใจสั่นระทึก กระเป๋าสีสวยหล่นกองอยู่เบื้องล่าง ข้าวของข้างในจึงหล่นกระจัดกระจาย
จบสิ้นแล้ว….
ชีวิตของคีย์….ตายแล้ว!
“แล้วใครที่เป็นเจ้าสาวตัวจริงของผม คุณคิบอม”
“น…นายพูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง” ชื่อนั้นทำให้สันหลังของคีย์เสียววาบ นานแล้วที่ไม่มีคนเรียกชื่อนี้
หากคีย์ตัดสินใจตีมึน ทำหน้านิ่งและปฏิเสธเป็นอันดับแรก ทว่า…เขารู้ดี คนที่มีสายตาคมกริบมองลึกอย่างชเว มินโฮน่ะหรือจะไม่รู้ว่าดวงตาของเขากำลังหวาดกลัวเพียงไร
“ไม่บอกเหรอคิบอม…” มินโฮทำหน้าเรียบเฉยขณะย่างสามขุมเข้ามา แค่ระยะเวลาจากเช้าถึงเย็น ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะหายป่วยได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
หากมินโฮทำกับเขาเหมือนเมื่อวาน…. ทำเหมือนตอนที่ขาดสติจะเกิดอะไรขึ้น
ไหนบอกว่าจะไม่ทำแล้ว… ไหนสัญญาแล้ว
เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ…บอกว่าเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ
คีย์ถดกายหนีจนกระทั่งรู้สึกว่าแผ่นหลังติดกับหัวเตียงด้วยความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ ความจริงก็คือ เขาไม่กล้าแม้แต่จะทวงสัญญา เพราะไม่ฉะนั้นมันอาจจะกลายเป็นเชื้อไฟที่ส่งเข้าไปทำให้กองไฟคุโชนยิ่งขึ้นไปอีก
เขากลัว….กลัวจนอยากจะคิดว่ามันเป็นแค่ฝันไป คีย์แอบจิกเนื้อตัวเองแรง… ด้วยความหวังว่าคงจะตื่น
หากไม่ใช่ ประกายแห่งความผิดหวังภายในดวงตาคมฉายลึก โดยเฉพาะสีหน้าเรียบ หากเหี้ยมโหดราวปีศาจนั่นอีก
“คุณพูดอะไร… ฉ..ฉะ ฉัน ไม่เห็นรู้เรื่อง”
คีย์ลืมอาการปวดหัวของตัวเองเป็นชั่ววินาที ร่างเล็กม้วนตัวกระโดดลงไปยืนข้างเตียงอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างสูงกว่าเคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมทำท่าคว้าตัวเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างที่เขาไม่อยากจะคิด คีย์หอบสะอื้นทั้งที่ไม่มีน้ำตา ก่อนวิ่งตรงไปที่ประตู และคว้าลูกบิด
ทว่า…มันกลับเปิดไม่ออก
“ห้องนี้ล็อคจากข้างในได้… และคนที่มีกุญแจเท่านั้นถึงจะเปิดออก”
“ว…ว่าไงนะ” คีย์ร้องเสียงหลง ประโยคนั้นทำให้เขาเข่าอ่อนจนแทบทรงตัวไม่ได้
บางที… ถ้ารู้แบบนี้ตั้งแต่แรก เขาน่าจะเป็นขโมยมากกว่านักต้มตุ๋น
“อย่าเข้ามานะ …ไม่งั้นฉันจะร้องจริง ๆ ด้วย” ร่างบอบบางเบียดกายจนแทบแทรกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของฝาผนัง และตะโกนบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอันสั่นระริก หากเสียงหัวเราะดังลั่น และสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยของอีกฝ่ายทำให้เขาอยากกัดลิ้นตัวเองตายจริง ๆ
“ผมให้ทุกคนออกจากบ้านนี้หมดแล้ว ตอนนี้ ทั้งบ้านมีแค่คุณ….กับผม ต่อให้คุณร้องดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครได้ยิน”
“นะ…นาย หมายความว่ายังไง”
“คุณกลัวผมไม่ใช่เหรอ?”
สายตาหยาบโลนมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า สมองของคีย์หาทางหนีทีไล่ หากดูเหมือนทุกหนทางจะถูกควบคุมเอาไว้ด้วยเจ้าของดวงตาอำมหิตคู่นั้นหมดแล้ว สิ่งของที่จะใช้เป็นอาวุธได้ก็หายไปจากสายตาจนหมด
ในระยะที่มือสามารถเอื้อมคว้าได้…ก็คงมีแค่ผ้าห่ม กับผ้าปูที่นอนที่จะมารัดคอตัวเองตายได้เท่านั้น
บ้า…บ้าที่สุด
กลั้นหายใจตายได้ไหม… คีย์อยากตาย
“ร่างกายของคุณ… ก็น่าสนใจดี”
“นะ…นี่… พะ พูดอะไรน่ะ” คีย์แทบปล่อยโฮ เสียงสั่นระริกตะโกนแบบไร้เสียง
ฆ่ากันดีกว่า….บีบคอเขาให้ตายไปเลยดีกว่า
“ก็ถ้าคุณยังไม่สารภาพว่าคุณเป็นใคร…ผมก็จะพิสูจน์เองว่าความจริงคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงน่ะสิ”
“ฉัน… ไม่รู้ เรื่อง… อันนั้นก็เป็นจดหมายที่ฉันคุยกับกับรุ่นน้อง.. กะ ก็… ”
ถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็แถไปก่อน …
อะไรก็ได้… ถ้าถ้าไม่เชื่อก็บีบน้ำตา ใช้มารยาหญิงไปซะ
“ เอาจริง ๆ คุณรู้อะไรไหม ผมก็คิดอยู่แล้วว่าทำไมคุณไม่มีหน้าอก…”
“ถ้าฉันรวยฉันก็ไปเสริมแล้วล่ะ… นะ หน้าอกนี่… ผู้หญิงอกเล็กมีปัญหาเหรอไง”
“อ๋อ… หน้าอกเล็กนี่เอง…” ชเว มินโฮ เอ่ยทวน พร้อมกับเดินตรงดิ่งเข้ามา จนคนยืนสั่นอยู่แทบล้มพับลงไปด้วความหวาดกลัว “ผมก็อยากรู้น่ะสิ…ว่าคุณอกเล็กจริงหรือเปล่า”
“มะ … มองอะไรน่ะ!! อย่าเข้ามานะ ไม่งั้น… ฉัน…” คีย์ขู่อย่างไร้หนทาง ยิ่งอีกฝ่ายเอ่ยประโยคต่อมาเขาก็เบิกตากว้าง… และปล่อยทำนบน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่เก็บกลั้น
“ผมลืมบอกคุณไปหรือเปล่านะ.. เอ…บอกหรือยังนะ”
“ระ…เรื่องอะไร”
“ก็… เรื่องรสนิยมของผมน่ะสิ” ร่างสูงใหญ่ตระหง่านตรงเข้ามาด้วยความเร็วที่เขาไม่อาจคาดเดาได้ มือแกร่งคว้าหมับที่แขนบอบบาง ก่อนที่แรงกระชากจะทำให้เขาเสียหลัก และหวีดร้อง “ ผมบอกคุณว่าเป็นเกย์ใช่หรือเปล่า… แต่ผมลืมบอกคุณไปอย่างหนึ่ง ”
“ปล่อย!!!!”
“ผมน่ะ …ได้ทั้งชายและหญิงนะ”
ร่างบอบบางเซถลา พร้อมกับแรงเหวี่ยงที่ทำให้เขากลับไปอยู่บนเตียงกว้าง…. คีย์ไม่อาจทำสิ่งใดแม้กระทั่งลุกขึ้นและขยับหนี ทุกอย่างฉับไว จนแค่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่อาจต่อต้านเรือนกายหนาที่ทาทาบลงมาบนร่างของเขาได้แล้ว
“ไหนนายสัญญาไว้แล้วไงว่านายจะไม่ทำอะไรฉัน” เสียงอ่อนระโหยเรียกร้องคำสัญญา… แม้จะรู้นั่นจะเป็นสัญญาณสุดท้ายของความปลอดภัยของเขาก็ตาม
ใช่… สุดท้ายแล้ว เพราะประโยคนั้นทำให้ดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงให้ความโกรธเกรี้ยวของมินโฮรุนแรงขึ้น จนดูเหมือนจะแผดเผาเขาให้ตายลงไปได้เพียงแค่มอง
“ผมสัญญาตอนที่ผมยังไม่รู้ว่าคุณมีเรื่องโกหกผม…โกหกคุณแม่ โกหกทุกคนไว้น่ะสิ”
“เชว… มินโฮ… ปะ ปล่อย…”
“คุณบอกเองว่าผมเป็นคนโกหกไม่ใช่เหรอ… คุณโกรธผม บอกว่าผมโกหกหลอกลวง…แล้วคุณล่ะ”
“ฉันไปโกหกอะไรคุณ!!!!”
“ต้องให้ผมบอกหรือไง… หือ?”
“ยะ…อย่าเข้ามานะ”
“ผมไม่ชอบคนโกหก… แล้วก็มีวิธีลงโทษคนโกหกแบบเฉพาะตัวด้วย”
“ยะ…อย่า อย่านะ… ” คีย์ปัดป่ายสุดกำลัง แขนและขาสะบัดดิ้นสุดแรง หากเพียงแค่มือใหญ่ข้างหนึ่งรวบข้อมือทั้งสองขึ้นสูง มืออีกข้างที่บีบสะโพกงามงอน และขาแกร่งสองข้างที่ตรึงส่วนล่างของเขาจนยึดให้ติดกับเตียงนั่น เขาก็ไปไหนไม่รอดแล้ว น้ำตาของคีย์ไหลทะลักจนเปรอะเปื้อน และทำให้ดวงตาของคีย์พร่ามัวจนมองไม่เห็นสีหน้าของคนที่กำลังมากกว่า
“ปล่อย ปล่อยฉัน ปล่อยยย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ปล่อ… อือ…. ”
ริมฝีปากของคีย์ถูกปิดสนิท พร้อมจูบหนักหน่วงหยาบกระด้างที่พุ่งเข้ามาตักตวงสิ่งที่ต้องการไปอย่างไม่มีปรานี คีย์หวาดกลัวมากกว่าทุกครั้ง…กลัวยิ่งกว่าเมื่อคืน เพราะการเคลื่อนไหวทุกอย่างของมินโฮในขณะนี้ไม่มีการผ่อนแรงเลยสักนิด หากเทียบกับความตระหนกที่เกิดขึ้นเมื่อวาน… ตอนนี้ เวลานี้ …. มินโฮเหมือนฆาตรกรโรคจิตที่พร้อมฟาดแส้แห่งความเหี้ยมโหดลงมาที่เขาอย่างไม่ยั้ง
“ยะ…อย่า … อย่า ฉันยอมแล้ว “
ฝ่ามืออีกข้างที่วนอยู่เหนือสะโพกเลื่อนลงไปตามเรียวขางาม และถกเนื้อผ้าโปร่งเบาขึ้นอย่างหยาบโลน
“ยอมแล้วก็อยู่นิ่ง ๆ สิครับคุณภรรยา…” มินโฮหัวเราะให้กับความพ่ายแพ้ของจอมต้มตุ๋น เขาเอ่ยราวกับมันเป็นเรื่องที่น่าขำ “เรื่องของผัวเมีย… ยังไงเราก็ต้องเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว เริ่มต้นซะตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่”
ฝ่ามือแกร่งกระชากผ้าส่วนบนลงจนฉีกออกจากกัน แล้วจึงดึงบราเซียร์ลูกไม้ที่ปกปิดแผ่นอกอันเรียบสนิทของ ‘ภรรยากำมะลอ’ ออกโดยไม่ปลดตะขอ และไม่กลัวว่าอีกคนจะเจ็บ
บ้าชะมัด… ไม่น่าหลงหน้าหวาน ๆ นี่เลยแม้แต่นิดเดียว
ร่างกายบอบบางอ่อนระทวยอย่างน่าประหลาด…สั่นสะท้าน และตื่นกลัว ร้องเสียงลงทุกครั้งที่ฝ่ามือของเขาไต่ลงต่ำ
“ยะ…อย่า… อย่า ”
มินโฮรู้สึกเหมือนหมาป่าที่กำลังวิ่งไล่ลูกแกะน้อยที่ไม่มีทางสู้ …. วิ่งต้อนให้จนมุม ไล่ตะครุบ แล้วก็ปล่อยให้แกะน้อยวิ่งหนี ก่อนตามไปไล่จับ…ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าด้วยความเพลิดเพลิน
นี่แหละ บทลงโทษของคนโกหก…
ในเมื่อรังเกียจเขาดีนัก…จะได้ลิ้มรสชาติของความเกลียดชังจนขาดใจตายไปเลย!
“ผม…ผมกลัวแล้ว”
มินโฮรับรู้ความพ่ายแพ้ของร่างบอบบางข้างใต้จากเสียงระโหยอ่อน และสีหน้าหวาดกลัว เสียขวัญนั้น หากเขากลับไม่สามารถหยุดตัวเองได้ คล้ายว่าสันชาตญาณสัตว์ป่ากำลังครอบงำเขา ให้สนุกกับการได้เล่นสนุกกับร่างกายที่ไม่อาจต่อต้านเขาได้เลยนั้น
อาจเป็นเพราะรสสัมผัสที่แปลกใหม่…และกลิ่นกายเฉพาะตัวแบบที่ไม่เคยพบจากใคร
หรือไม่… ก็คงเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเอง
ที่ทำให้มินโฮปล่อยมือจากร่างเล็กนี้ไม่ได้
“หือ..ว่าไงนะ”
ฝ่ามือหนาคลึงอยู่บนเนื้อผ้าผืนบางที่ป้องกันสะโพกงามไว้ นิ้วเรียวยาวขยับใกล้ขอบกางเกงผ้ายืด ผิวขาวเนียนปรากฎต่อสายตาจนมินโฮแทบจะต้องกลั้นใจ
ผิวกายนุ่มนิ่มแทบจะทำให้มินโฮคลั่ง… จากครั้งแรกที่ตั้งใจหยอกเล่นเพื่อลงโทษคนขี้โกหก แล้วจึงค่อยหาทางลงโทษทางกฎหมายต่อไป
หากตอนนี้… กลับรู้สึกเหมือนยากเหลือเกินที่จะหยุดอะไรต่อมิอะไรที่กำลังพรั่งพรูอยู่ในใจให้กลับไปที่เดิม
มินโฮจูบหนักบนหน้าท้องที่แบนเรียบ… ฝ่ามือทั้งสองประคองสะโพกกลมมนไว้อย่างเผลอไผล ขนาดนี้แขนทั้งสองวางอยู่เหนือขาเรียวยาว ร่องรอย
เป็นครั้งแรก… ที่เกินเลยมาถึงขั้นนี้
ร่างบอบบางนุ่มนิ่มและไร้เรี่ยวแรงอย่างไม่น่าเชื่อ… ทั้งเนื้อทั้งตัวที่อ่อนระทวยราวกับกำลังเรียกร้องเขา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ยินยอม ผิวกายที่สั่นระริกยิ่งทำให้เขาสนุกทุกครั้งที่ก้มลงฝากรอยสีกุหลาบ พลังมืดดำของอะไรบางอย่างกำลังทำให้เขาเป็นบ้า… โดยเฉพาะเมื่อทุกจุมพิตร้อนรุ่มถูกทดแทนด้วยเสียงคร่ำครวญและเสียงสะอื้นที่แทรกผ่านลมหายใจแหบพร่า…
“ยะ..อย่าทำอะไรผมเลย”
และหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทุกทีของมินโฮ
“ผะ…ผมคือคิบอม…เป็นน้องชายของพี่ฮยอนอา… ผะ.. ผมเป็นผู้ชาย ผมเป็นผู้ชายจริง ๆ นะ… อย่าทำอะไรผมเลย…”
มินโฮแทบจะหัวเราะให้กับคำสารภาพด้วยน้ำเสียงละล่ำละลักนั้น…
บอกความจริงตอนนี้มันจะมีประโยชน์อะไร
ในเมื่อร่างกายของเขา…
มันไม่ยอมรับฟังเอาซะเลย
TBC.
แลดูงง ๆ …
โอเอ็มจี …อ่านจบตอนนี่ขอพูดเลย หนูขอตาย …. #เป็นลมสลบไป y ____ y
อะไรกัน ทำไมคนป่วยพื้นขึ้นมาเร็วเยี่ยงนี้ แถมฟื้นขึ้นมาพร้อมกับเรี่ยวแรงมหาศาลด้วย
บทความลับจะแตกก็แตกซะงั้น นี่อุตส่าห์ปิดบังได้มาด้วยดีนะ ไม่น่าเลย
มินโฮแหละไปอ่านจดหมายทำไม แล้วก็อย่านะ พี่คีย์ฉานบอบบบ๊างงง อ๊ากกกก
ถึงจะลุ้นให้เขาได้กันก็เถอะ แต่แบบไม่ใช่แบบนี้ สงสารพี่คีย์พี่คีย์กำลังกลัว T T
แต่อีกใจด้านมืดก็แบบ เอาเลยปล้ำเลยยย พี่คีย์จะได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว กร๊ากกกก
เหมือนคนบ้าเลยอ้ะ บอกเลยนี่อ่านจบตอนนี่เหนื่อยมากค่ะพี่นิ่ม ฟิคเรื่องนี้มีอะไรให้ลุ้นตลอด
ลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ลุ้นว่าจะเกิดอะไรอีกจะเป็นยังไงต่อไป โอ้ยยยให้ตายยยยยยยยยยย
ตอนนี้ด้านมืดมันครอบงำจิตใจ อยากให้พี่คีย์แปดเปื้อนเพราะชเวมินโฮ๊ววว ; w ; 555555555
รู้แล้วแหละว่ายังไงมินโฮก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วแน่ๆ แต่ผลจากนี้แกต้องรับผิดชอบพี่คีย์เลานะ!!
ทำดีกับพี่คีย์มากๆแล้วอย่าให้พี่คีย์เลาเสียใจนะ #เพ้อไปแล้วตอนนี้ฮือออ T ___ T
รออ่านตอนต่อไปนะคะ หวังว่ามินคีย์จะได้รักกันในเร็วๆนี้ ฮรืออ พี่นิ่มไฟว์ติ้งค่า ; ___ ;
รอคอยมานาน ยังจำได้ค่ะ
ในที่สุดมินคีย์ก้อจะได้กันแล้วใช่มั้ย??
มีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวจะพลิกผันอ่ะ
แลจะดราม่านะ แต่คิมคีย์โดนซะบ้างก้อดี
โขกสับ ด่าว่า ตบตีชเวมานานล่ะเกิน (ตอนนี้ขอเข้าข้างชเวก่อน)
อดีตชเวลึกลับอ่ะ อยากรู้เรื่องราวจริงๆจัง สงสารชเว
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย
มินโฮรู้ความจริงแล้วอ่ะ แกอย่าโกรธคีย์เซ่!!!
อย่าทำอย่างงั้นเลย ถึงจะอยากให้คีย์เป็นของแก
แต่ก็ไม่อยากให้ได้ด้วยวิธีนี้นะ กดดันคีย์เกินไปอ่ะ
มินโฮทำเป็นอย่างกะคนสองบุคลิก-*-
บทจะสุภาพก็สุภ๊าพสุภาพ บทจะโมโหนี่โครตน่ากลัวTT
รอตอนต่อไปรีบๆมาต่อนะคะ TT
กรี๊ดดดดดด อะไรเนี่ยยย ค้างง่ะ 5555
นี่ทำแบบนี้เพราะโกรธที่ถูกหลอก หรือหลงน้องคีย์กันแน่เนี่ยยยยยย อย่าใช้กำลังซี่ เด๋ยวคิบอมก้อช้ำหมด 55
ก้อเข้าใจนะว่ามันห้ามใจยาก =,,= แต่อย่ารุนแรงมากนะ สงสารคีย์ :=:
สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วลุ้น ยังไงก็อย่าปล่อยให้เค้าลุ้นนานเลยนะ♥ ขอบคุณมากค่าา ^^
มินโฮอย่าทำคีย์แรงๆนะ /ห๊ะ
คีย์กลัวแล้วอะ
น่าสงสารสุด
มินโฮอย่าใจร้ายเลยเหอะ
ตอนแรกกะจะแกล้งแต่เจอความสวยของคีย์เข้าไปถึงกะหยุดไม่อยู่เลย
แล้วจะเป็นไงต่ออะ อยากรู้มากมาย
น้องคีย์น่ารักกำลังจะเป็นของมินโฮแล้ววววว
เราดีใจจัง???? =_= เราอยากเห็นมินคีย์แบบตบจูบอ่ะลงโทษคนโกห ก>\\\<
หนูมาอ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฮื่ออออออออออออออออออออออออออ
อ่านตอนนี้มึนงงไปพร้อมๆน้องคีย์เลย อาจจะเพราะว่าจะเช้าแล้ว? ฮ่าาาาาTT มินโฮอย่ารุนแรงกับน้องมากนะคะ T_________T สงสารน้องคีย์อ่ะ มินโฮไม่ฟังอะไรเลยยย ไม่รู้เลยที่ผ่านมาน้องรู้สึกยังไง
แล้วคีย์ก็ไม่ได้ตั้งใจโกหกมินโฮด้วยนะ TT
เรื่องกำลังเข้มข้นมากเลย ตอนแรกมินโฮดูเป็นคนกลัวน้องคีย์ มาตอนนี้น้องคีย์กลัวมินโฮซะงั้นอ่ะ
ก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันไง ไหนมีสัญญาแล้ว ทำไมไม่รักษาสัญญาล่ะ
โฮรรรร จริงๆเอ่อ อยากได้เอ็นซีนะคะ หึหึ=.,= เปลี่ยนอารมณ์ไวปานประหนึ่งเป็นชเวมินโฮด้วย
อือหือออ จบแบบนี้ ฆ่ากันเถอะค่ะไรเตอร์
เรียงลำดับเรื่องราวไม่ถูกกันเลยทีเดียว อยู่มินโฮ พ่อคู๊ณณณ นึกคึกยังไงไปอ่านจดหมาย ไปค้นกระเป๋าเค้าหละ นึกว่าหายป่วยจะมีฉากสวีทเบาๆ กลายเป็นสหยิวไปซะงั้น เป็นเราเราเป็นมินโฮก็ไม่ทนนะค่ะ น้องคียืน่ารักขนาดนั้นอ่า ตอนนี้โดนรวมถือว่าดีค่ะ ชอบเลยเรื่่องราวได้เข้มข้นไปอีกระดับหนึ่ง
และความสันพันธ์หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไปต้องค่อยดู คาดเดาอะไรไม่ได้เลยจิงๆ
ปล. มาต่อไว้ๆนะค่ะ ติดตามอยู่คร่าาา
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมากเลยอ่า
มินโฮแกจะทำไรคีย์ เดี๋ยวคีย์กลัวนะ .. มองหน้ากันไม่ติดจะทำไงอ่ะ
แต่ถ้าทำก็เบาๆหน่อยนะ -….-
รีบมาต่อเร็วๆนะคะ อย่าทำค้างเลย ขอร้องนะๆๆๆๆ ชอบบจริงๆๆๆ
อือหือ คีย์ตายแน่ๆ
มินโฮแกจะทำอะไรคีย์ของชานนนนนนนน
โดนตบ55
สงสารคีย์อ่ะ ขอโทษแล้วมินโฮยังไม่หยุดเลย
แล้วมินโฮจะเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่ไหม
แล้วคีย์จะเป็นยังไง
โอ๊ย!!!!!ลุ้นๆ
มาต่อไวๆนะค่ะไรท์ ครั้งสุดท้ายที่ไรท์มันนานมากเลยTT
เค้ามีเรื่องจะสารภาพ เค้าไม่ได้เม้นตั้งแต่แรกอย่าโกรธเค้านะ
ไรท์แต่งดีมากเลยค่ะ ตอนแรกว่าจะอ่านดูก่อนสักตอน อ่านไปอ่านมาเพลินเลย
โทษนะอย่าโกรธเค้าเลย
ะ
ตอนแรกคิดว่าจะอ่านดูก่อนสักตอน